คำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่มักสับสนและใช้กันผิดๆ
น่าจะเป็นเรื่องที่พบเจอประจำที่บางคนอาจจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษบางคำไม่ได้ หรือจำสับสนกับอีกคำบ้างเพราะเขียนคล้ายกัน แม้ว่าคุณจะเรียนภาษาอังกฤษมานานหลายปี แต่ภาษาอังกฤษก็เป็นภาษาที่มีความซับซ้อนและสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้ได้อยู่ไม่น้อย หลายคำที่คุณมักใช้บ่อยๆในบทสทนา แต่พอจะนำมาเขียนดันสะกดผิดกลายเป็นอีกความหมายหนึ่งก็มี ดังนั้นวิธีที่จะช่วยป้องกันการเขียนผิดและสื่อสารผิด คุณจะต้องแยกแยะความแตกต่างของคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่มักก่อให้เกิดความสับสนเหล่านั้นให้ได้ก่อน มากกว่านั้นหลายคนมักกล่าวว่า คุณต้องเขียนให้เป็นก่อนที่จะพูด เพราะไม่เช่นนั้นแล้วคุณอาจเป็นบุคคลที่มีปัญหาในการสื่อสารความหมายออกไปได้อย่างแน่นอน
บทความนี้จะหยิบยกคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่คนไทยมักสับสนและใช้ผิดกันอยู่บ่อยครั้งมาเห็นให้เป็นตัวอย่าง โดยหวังว่าจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถจดจำและนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องต่อไป
Advice vs. Advise
Advice ที่มากับเสียงสะกดแบบตัว s นั้น คือ คำแนะนำในการปฏิบัติ ตัวอย่างคือ My teacher gave me a really great advice. ส่วน Advise ที่ออกเสียง z หมายถึง แนะนำว่าต้องทำอย่างไร หรือการให้คำปรึกษา The doctor advised me to exercise more often. ผู้ใช้ควรจดจำให้ดีว่าหน้าที่ของสองคำนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะคำแรกเป็นคำแนะนำ มาในลักษณะของคำนาม ส่วนคำที่สองนั้นเป็นคำกริยา หากจะให้จำง่ายๆ อาจแบ่งจำสามตัวหลัง ice น้ำแข็งเป็นคำนาม ส่วน is ที่อยู่ในคำที่สองเป็นคำกริยา
Lose vs. Loose
ผลคะแนนของคุณ lose หรือ loose ในรอบสุดท้าย? เมื่อคุณน้ำหนักลดลง กางเกงของคุณ lose หรือ loose? คนมักสับสนกันอยู่มาก ตัวฉันเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น และคำนี้มันให้ผลคนละความหมายกันอย่างสิ้นเชิงโดยไม่ใกล้เคียงกันเลย เพราะฉะนั้นมันจึงสำคัญมากๆที่คุณต้องทำความเข้าใจและจำศัพท์ภาษาอังกฤษคำนี้ให้ถูก โดยฉันแนะนำทริคการจำง่ายๆคือ ตัว o ในศัพท์สองคำนี้นั้น ให้จินตนาการว่าคำทั้งสองเริ่มต้นเหมือนกัน แต่ ณ จุดหนึ่ง lose ก็ได้สูญเสีย o ตัวหนึ่งไป นั่นหมายความว่า คำว่าสูญเสียจะมี o ตัวเดียว ส่วนคำว่าหลวมจะมี oo สองตัวนั่นเอง
Every day vs. Everyday
Everyday เป็นคำคุณศัพท์ซึ่งหมายความว่าทั่วๆไปหรือปกติธรรมดา (Everyday people don’t dress head to toe in Gucci.) ส่วน Every day หมายถึงบางสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน (I drink two cups of coffee every day.) และเพื่อให้สับสนกันขึ้นไปอีก หลักภาษาอังกฤษนิยามไว้ว่า Things you do every day are everyday things. แต่อย่าเพิ่งพากันงงไป เพราะมีวิธีง่ายๆในการแยกแยะสองคำนี้ คือ หากคำว่า each day ใช้ได้ในประโยคของคุณ ก็ให้ใช้คำว่า every day แทนได้ หากจำหลักนี้ได้เพียงข้อเดียว คุณก็จะไม่สับสนมันอีกต่อไป
Proceed vs. Precede
มีทริคหนึ่งที่อาจจะช่วยให้คุณแยกแยะความแตกต่างระหว่างสองคำนี้ได้ด้วยประโยค “A pro should proceed.” จากคำว่า pro ในประโยคนี้จะบอกให้เห็นว่าคนที่เป็นโปรต้อง proceed ซึ่งหมายถึงการปฏิบัติต่อไปโดยเฉพาะในกรณีที่การทำงานถูกหยุดชะงักลง ส่วนคำว่า Precede คือ การคงอยู่ในสิ่งนั้น โดยสิ่งนั้นสำคัญและมาก่อนสิ่งอื่นใด
Its vs. It’s
สองคำนี้ทำให้พวกเราหลายคนมึนงงกับการใช้งานกันอยู่ไม่น้อย อย่างที่ทราบกันดี it’s คือตัวย่อของ it is และ its คือคำแสดงความเป็นเจ้าของของ it ถ้าคุณรู้สึกอยากจะใส่เครื่องหมายอะโพสโทรฟีเข้าไปละก็ อย่างแรก ให้คุณดูว่าคุณสามารถแทนที่คำนั้นด้วย his หรือ hers ได้หรือไม่ ถ้าได้ คุณก็ต้องเลือกใช้คำว่า its
Affect vs. Effect
คำศัพท์ภาษาอังกฤษสองคำนี้เหมาะที่จะพูดว่าแค่เขียนผิดตัวเดียวชีวิตก็เปลี่ยน เพราะความหมายนั้นสื่อไปคนละทางกัน คุณคงไม่เชื่อว่าคำนี้เป็นคำที่คนมักจะเขียนผิดบ่อยมากๆ และมีการใช้สลับกันอยู่บ่อยครั้งเช่นกัน affect = verb และ effect = noun และคุณไม่สามารถใช้คำกริยาแทนคำนามได้ หากให้จำทริคการใช้งานง่ายๆก็คืออิงจากประโยคนี้ You can only have an “effect” on something once you “affect” it.
Complimentary vs. Complementary
เป็นอีกสองคำที่ทำให้สับสนได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเมื่อคำทั้งสองออกเสียงเหมือนกันและสะกดต่างกันเพียงเล็กน้อย ทริคง่ายๆที่เอาไว้แยกแยะความแตกต่างเวลานำไปใช้คือ เมื่อ Complement แปลว่าการเติมเต็มซึ่งกันและกัน ให้จำว่า เมื่อมีการ complement ดังนั้นคุณกำลัง complete something และคำว่า compliment คือการชื่นชมและให้ฟรี ทริคในการจำคือเมื่อคุณชื่นชมใคร แสดงว่าคุณชอบคนนั้น ตัว i ใน compliment = like และของฟรีเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างชอบ หากจำแบบนี้จะแยกความสับสนได้ดีทีเดียว
ตัวอย่างที่กล่าวมาเป็นเพียงคำที่มักพบว่ามีการใช้ผิดกันอยู่บ่อยๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีคำศัพท์ภาษาอังกฤษอีกหลายคำมากๆที่ผู้คนยังสับสนในการใช้งาน ดังนั้น การเรียนภาษาอังกฤษพร้อมกับการจดจำและทำความเข้าใจถือเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ มิเช่นนั้นคุณจะเรียนรู้สิ่งผิดๆและนำการใช้งานแบบผิดๆเหล่านี้ไปใช้ หากคุณต้องการให้การเรียนภาษาอังกฤษของคุณมีประสิทธิภาพและนำไปใช้สื่อสารได้จริง ฉันก็อยากแนะนำให้คุณหมั่นทวนความรู้ นำไปใช้บ่อยๆเพื่อที่จะได้ชินกับการใช้งานของภาษานั้นๆ ภาษาอังกฤษเองก็มียังมีหลายกฎและหลายหลักเกณฑ์ในการใช้ที่สำคัญต่อการสื่อสาร มากขนาดที่ฉันเชื่อว่าคุณเรียนภาษาทั้งชีวิตก็ยังรู้ได้ไม่หมด แต่มันไม่ได้ยากเกินกว่าความพยายามที่จะเข้าใจ ปล่อยให้ตัวเองสนุกไปกับภาษาและนำไปใช้ได้จริง สิ่งนั้นเห็นจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ผู้เขียน
พรชนก วัฒนาณุฐการ (ปู)
ผู้ช่วยฝ่ายการตลาด